Disclaimer: This is a user generated content submitted by a member of the WriteUpCafe Community. The views and writings here reflect that of the author and not of WriteUpCafe. If you have any complaints regarding this post kindly report it to us.

หนังข้ามเวลา ถ้าจะพูดถึงหนังแนวท่องเวลาหรือ Time Travel นั้นมักจะมีอยู่มากมายและวิธีการต่างๆที่แตกต่างกันไปด้วยเนื้อเรื่องที่ส่วนใหญ่ตัวเอกจะสามารถท่องเวลาได้เพื่อเดินทางไปแก้ไขอดีตหรือเหตุการณ์ต่างๆที่เลวร้ายหรือเดินทางไปในอนาคตเพื่อความอยากรู้อยากเห็นและไปในที่ๆอายุขัยเราเองไม่สามารถอยู่ถึงได้สัปดาห์นี้เราจะมาพูดถึง 11 ภาพยนตร์แนวท่องเวลาที่ใช้ Time Machine หรืออุปกรณ์และพาหนะ (ไม่นับบุคลที่มีพลังและความสามารถในการท่องเวลา) หนังข้ามเวลา ที่ใช้เดินทางท่องเวลานั่นเอง

 

 

 

1. The Time Machine (1960 & 2002)

 

ภาพยนตร์เรื่องแรกที่เกี่ยวกับการท่องเวลาโดยใช้ Time Machine เรื่องแรกนั้นคือ “The Time Machine” ที่เขียนโดยยอดนักประพันธ์ H. George Wells นำแสดงโดย Rod Taylor ที่ชอบเขียนนิยายแนววิทยาศาสตร์นั่นเองซึ่งเป็นเรื่องราวที่ใช้ตัวละครในชื่อของเขาเอง โดย Scientist H. George Wells ได้สร้างเครื่อง Time Machine ขึ้นมาเพื่อออกผจญภัยและอยากที่จะเห็นอนาคตที่เป็นไปได้ ซึ่งเขาได้เดินทางไปในช่วงเวลาต่างๆและเดินทางไปถึงอนาคตวันสิ้นโลกที่มีแต่สัตว์ประหลาดและมนุษญ์ที่กำลังจะสูญพันธ์ ในภายนตร์นี้ถือว่าเป็นเรื่องแรกๆที่เล่าถึงอนาคตผ่านสายตาและความคิดของผู้คนในช่วงยุค 60 ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับการรีเมคอีกครั้งที่ใช้ชื่อเดียวกันในปี 2002 นำแสดงโดย Guy Pierce

 

 

2. Time After Time (1979)

อีกหนึ่งภาพยนตรที่ใช้ H.G Wells เป็นตัวเอกอีกครั้ง โดยครั้งนี้เอาเรื่องราวของ Jack the Ripper มายำอีก! ซึ่งเป็นเรื่องราวของ H.G. Wells นำแสดงโดย Malcolm McDowell ที่สร้างเครื่อง Time Machine และหวังที่จะท่องไปในโลกอนาคตแต่ทั้งนั้น Jack the Ripper ฆาตกรต่อเนื่องอันเลื่องชื่อดันใช้ Time Machine เดินทางไปก่อนทำให้ H.G Wells ต้องวิ่งวุ่นตามล่า Jack the Ripper ก่อนที่จะเริ่มการสังหารอีกครั้ง ภาพยนตร์เรื่องนี้มีการนำมารีเมคเป็นซีรีส์ที่ทำให้ดูทันสมัยขึ้นและ Jack the Ripper เองเดินทางมาในปีปัจจุบัน ในชื่อซีรีส์ Time After Time ออกฉายปี 2017

 

 

3. The Terminator (1984)

ปลอมตัวเป็นคนแต่ไม่ใช่คนนักฆ่าหุ่นไซบอร์ก Terrminator (Arnold Schwarzenegger) เดินทางมาจากอนาคตปี 2029 มายังปี 1984 เพื่อตามล่า Sarah Connor (Linda Hamilton) และ Kyle Reese (Michael Biehn) ผู้ซึ่งมาจากอนาคตเหมือนกันเดินทางมาเพื่อปกป้อง Sarah Connor เนื่องจาก Skynet ระบบคอมพิวเตอร์วายร้ายพยายามที่จะระเบิดคนทั้งโลกทิ้ง โดย Sarah Connor ถูกตามล่าเพราะลูกของเธอคืออนาคตในการหยุดยั้งสงครามครั้งนี้ จะเห็นว่าเครื่อง Time Machine ในภาพยนตร์เรื่องนี้สามารถเดินทางได้ครั้งเดียวกลับไม่ได้และต้องเดินทางโดยไม่ใส่เสื้อผ้าด้วยเราจึงเห็นฉากเด่นที่ Terminator นั้นโผล่มาจากอนาคตโดยไม่มีอะไรติดตัวมาเลยจริงๆ

 

 

4. Back To The Future (1985)

ภาพยนตร์อีกเรื่องในยุค 80 ที่ฮิตสุดๆมาจนถึงทุกวันนี้ที่ทุกคนต้องเคยดูนั่นคือ “Back to the Future” เรื่องราวของเด็กหนุ่มวัยรุ่น Marty McFly (Michael J. Fox) ที่ต้องช่วยเหลือเพื่อนของเขานักวิทยาศาสตร์สติเฟื่อง Doc Brown (Christopher Lloyd) ที่หายตัวไปโดยต้องเดินทางไปทั้งอดีตและอนาคตเพื่อสร้างความสมดุลของเวลาให้กลับเป็นเหมือนเดิม Doc Brown ได้สร้างเครื่อง Time Machine สุดเจ๋งที่เป็น iconic มาจนถึงทุกวันนี้คือรถ DeLorean ที่ดัดแปลงพิเศษและสามารถบินได้ด้วยรูปแบบของรถที่ผสาน Time Machine เข้าด้วยกันทำให้รถ DeLorean เป็นที่อยากได้สำหรับแฟนๆของภาพยนตร์แฟรนไชส์นี้

 

 

5. Time Cop (1994)

จะเกิดอะไรขึ้นถ้าตำรวจสามารถเดินทางข้ามเวลาเพื่อจับผู้ร้ายได้ เมื่อในโลกอนาคตที่เหล่าร้ายสามารถเดินทางข้ามเวลาเพื่อหลบหนีและก่ออาชญกรรม โดยนายตำรวจ Walker (Jean-Claude Van Damme) ที่ได้รับเลือกในการปราปเหล่าร้ายข้ามเวลาและต้องช่วยเหลือภรรยาของเขาเองที่ถูกฆาตกรรมในอดีตและเปลี่ยนอนาคตให้ได้ซึ่งถ้าจำฉากเด็ดของเรื่องนี้นั่นคือท่ากระโดดฉีกขาประจำของ Van Damme นอกจากนี้เราจะเห็น Time Machine อีกรูปแบบที่เป็นเครื่องบินจำนวนสองที่นั่งที่ต้องวิ่งผ่านประตูเวลาขนาดใหญ่เพื่อเดินทางข้ามเวลา

 

 

6. 12 Monkeys (1995)

ภาพยนตร์ Time Machine อีกเรื่องที่ถือว่าเป็นผลงานสุดคลาสิค James Cole (Bruce Willis) ต้องเดินทางจากปี 2030 กลับมายังปี 1990 เพื่อหาข้อมูลและปกป้องจากโรคระบาดที่กำลังเกิดขึ้นในอนาคตที่สังหารประชากรบนโลก นอกเหนือจากคนที่คอยช่วยเหลือที่ไม่เต็ม manic Jeffrey (Brad Pitt) James Cole จะต้องหาความจริงเพื่อเปลี่ยนอนาคต ส่วนเครื่อง Time Machine ในภาพยนตร์เรื่องนี้จะเป็นรูปแบบที่เหมือนกับภาพยนตร์อื่นๆที่สามารถเดินทางในแต่ละครั้งและคนเดียว